หุ้นเด้ง: Baggerstocks

รู้ และ เห็น ตามความเป็นจริง

ดูไม่ดู ดูไม่ดู กับ DOHOME

ดูไม่ดู ดูไม่ดู กับ DOHOME

หลังจากที่หายไปนาน วันนี้ได้ถือโอกาสอันดีมารีวิวหุ้น DOHOME

ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจ โอกาสและความเสี่ยงเป็นไงบ้าง

 

DOHOME ทำอะไร?

ทำธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ชื่อ “ดูโฮม”

ด้วย concept  “ครบ ถูก ดี”

DOHOME-Product

 

 

ดูโฮม มี 9 สาขาใหญ่  ดูโฮม To Go 2 สาขา   ศูนย์กระจายสินค้าที่ปทุมธานี 1 แห่ง

จะเห็นว่าที่ผ่านมาสาขาของดูโฮม จะเน้นความครบ ทั้งวัสดุก่อสร้าง และ ของตกแต่งบ้าน

ด้วยสาขาที่ใหญ่ทำให้ต้องเลือกทำเลชานเมือง

เป้าหมายในการขยายสาขาคือ จะมี 16 สาขาใหญ่ในปี 2564 (+7 สาขา ภายใน 3 ปี!!!) ถือว่าโหดจัดมาก ๆ

ขณะที่  ดูโฮม  To Go  เพิ่มเป็น 90 สาขา (+88 สาขา)

DOHOME-Branch

 

จุดเด่น

1.เป็นธุรกิจที่มีความต้องการตลอดเวลา

2.มีความเข้าใจความต้องการของลูกค้า พร้อมปรับเปลี่ยน

3.มีแนวคิดในการเพิ่มอัตรากำไร  คือ

3.1) ใช้วิธีซื้อขาดจากพวก supplier เพิ่มอำนาจในการต่อรอง สามารถบริหารจัดการ stock ได้

3.2) เพิ่มสินค้า hourse brand

3.3) จะขยายสาขาให้เล็กลง ให้อยู่ในเมืองมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าตกแต่ง และซ่อมแซมบ้าน(ใช้ brand DOHOME TO GO) เช่น ท่อน้ำแตก ท่อตัน ก๊อกน้ำรั่ว ลูกค้าต้องซื้อไปซ่อม ต้องเน้น เร็ว ใกล้ สะดวก

3.4) ขยายทั้งสาขาใหญ่และ สาขาย่อย (เพิ่ม margin)

โดยรวมกลยุทธ์ก็ถือว่าไม่แตกต่างจาก hmpro หรือ global เท่าไรนัก

 

ความเสี่ยง

1.ผลประกอบการขึ้นกับกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

2.มีการแข่งขันสูง

ข้อมูลจาก https://www.youtube.com/watch?v=AiP9nooX88A

 

ลองเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

ข้อมูลปี 2560 จะเห็นว่า DOHOME มียอดขายเป็นอันดับ 4 แต่ก็ถือว่าใกล้ ๆ กับอันดับที่ 2, 3

DOHOME-Compare modern trade

 

ลองมาดูภาพรวมกันบ้าง

จะเห็นว่าจำนวนสาขาของ DOHOME มีไม่เยอะแต่ยอดขายต่อสาขาสูงมาก

margin โดยรวม ต่ำกว่า GLOBAL และ HMPRO อย่างชัดเจน

DOHOME-GLOBAL-HMPRO

ภาพจาก https://www.facebook.com/stock.vitamins/

 

ผลประกอบการที่ผ่านมา

รายได้ – ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนรายได้จะไม่โตเลย จนถึง Q1 2019

ต้นทุน – ต้นทุนค่อนข้างคงที่ แต่ในปี 2561 ต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก ผู้บริหารให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจชะลอตัว ราคาพืชผลตกต่ำ หนี้สินครัวเรือนสูง กระทบลูกค้ากลุ่มกลาง-ล่าง

gp ลดส่วนหนึ่งมาจากราคาเหล็กที่ผันผวน

DOHOME แก้ไข โดย มีการควบคุม stock และมีเป้ากำไรสำหรับกลุ่มเหล็ก เปิด DC ช่วยในการกระจายสินค้า

กำไร – ส่งผลให้ปี 61 กำไรลดลง -52% YoY  ฉะนั้นถ้าในปีนี้กำไรจะโตก็ไม่แปลก

เพราะบริษัทโตจากฐานที่ต่ำในปี 2561  จะเห็นว่าใน Q1/2019 กำไรโต 32%

 

DOHOME-Financial 2018

 

ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด Q2/2019 ?

DOHOME-Descriptoin Q2/2019

 

รายได้ – โตเล็กน้อย(+3.8%)

กำไรโต 76% NPM 4.3% จาก 2.3%  ฉันอยากจะย้ำอีกซักครั้ง

(ว่ามันมากจากฐานปีที่แล้วที่ต่ำ!!!)

ต้นทุน –  ทำได้ดีขึ้นจาก

1)สัดส่วน hourse brand ที่มากขึ้น ส่งผลให้ gp มากขึ้น

บริษัทไม่ได้เปิดเผยว่ามีสัดส่วนเท่าไร

แต่ถ้าดูจากข้อมูล filling จะเห็นว่าใน Q1 มีสัดส่วนประมาณ 14.5% จาก 13.9%

ถ้าลองมาดูในแง่มูลค่า

นับเฉพาะรายได้จากการขาย

Q1/2018  รายได้  4,882 ล้านบาท  hourse brand ที่ 13.9% จะมีมูลค่าประมาณ  678 ล้านบาท

Q1 /2019 รายได้  4,909 ล้านบาท  hourse brand  ที่ 14.5% จะมีมูลค่าประมาณ  711 ล้านบาท

โต 4% ถือว่าไม่มาก ต้องลองเทียบกับ hmpro หรือ global ดูว่าทำได้ดีเท่าไรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

DOHOME-Hourse brand

 

2) อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นของเหล็กจาก 10% -> 12%

ตรงนี้ผมไม่มีมูลค่าของจำนวนเหล็กที่บริษัทขาย ทำให้ไม่แน่ใจว่าความเสี่ยงเรื่องราคาเหล็กจะเป็น one time หรือ foever  เท่าที่ดูหลายปีที่ผ่านมาราคาเหล็กดูเหมือนจะเป็นขาขึ้นมาตลอดแต่ปี 2561 ดูแกร่งๆ ด้วยนโยบายของ DOHOME ที่ซื้อขาดวัตถุดิบจาก supplier แต่ก็แลกกับความเสี่ยงของราคาเหล็กด้วยเหมือนกัน

DOHOME-Steel indicator

 

สุดท้ายนี้

DOHOME-HMPRO

 

DOHOME-Global

 

DOHOME-Factsheet

หลังจากเข้าตลาด ราคา ipo 7.8 บาท   pe 29 เท่า

ราคา ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2562 9.95   +28% จากราคา ipo  PE 35 เท่า 

แม้จะมี pe ไม่ต่างกับ global

 

ลองมาดูข้อมูลจากงบการเงินรอบ  6 เดือน 2562 กันบ้าง

sale( ล้านบาท)      ดูโฮม    9,487    GLOBAL     15,359           HMPRO  34,118

sale growth(%)    ดูโฮม    -1%        GLOBAL        15%            HMPRO   5.42%

gross                      ดูโฮม   1,612      GLOBAL         2,867          HMPRO  8,371

gross profit(%)    ดูโฮม   16.9%      GLOBAL         18%            HMPRO  24%

net                          ดูโฮม  439        GLOBAL          1,070           HMPRO  2,946

net profit(%)            ดูโฮม   4.6%        GLOBAL   6.9%           HMPRO   8.6%

market cap                        ดูโฮม  17,540          GLOBAL     68,064     HMPRO  228,830

p/s(price/sale ปี 2561)    ดูโฮม   0.94 เท่า     GLOBAL    2.59        HMPRO   3.46

P/E                                      ดูโฮม     35                GLOBAL      34           HMPRO   38

 

ข้อมูลอื่น

เงิน ipo ที่ได้มา  3,450 ล้านบาท

3,000 ล้านบาท คืนหนี้

280 ล้านบาท เอาไปเปิดสาขาใหญ่ 1 สาขา to go 10 สาขา

10 ล้านบาท พัฒนาระบบไอที

161 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

สาขาใหญ่ เงินลงทุน 250-300 ล้านบาท เป้ารายได้ 1,000-1,200 ล้านบาทต่อปี

To Go 1.5-6 ล้านบาท เป้ารายได้ 24-120 ล้านบาท ปีนี้จะมี 10 สาขา ปีหน้า 30  ปีถัดไป 50

(ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/stock.vitamins/  

 

เดาเล่นๆ 

เรื่องการขยายสาขาดูจากเงินแล้วน่าจะลำบากเหมือนกัน เพราะเงิน ipo ที่ได้คืนหนี้ก็เกือบหมดแล้ว

เงินขยายสาขา ที่ 280 ล้านดูน่าเป็นห่วงมาก เพราะขยายแค่สาขาใหญ่ สาขาเดียวก็น่าจะเกือบหมดแล้ว

ต้องดูว่า DOHOME จะทำอย่างไรกับแผนการจัดหาเงิน

 

ถ้าคิดแบบโลกสวย

ขยาย        7 สาขาใหญ่   แต่ละสาขาสร้างรายได้    1,000 ล้านบาท     สร้างรายได้   7,000 ล้านบาท

สาขาเล็ก  88 สาขา  แต่ละสาขาสร้างรายได้   24 ล้านบาท                สร้างรายได้   2,000 ล้านบาท

รวมรายได้  18,000+9,000 =  27,000 ล้านบาท

รายได้โต 50%

ถ้าคิด NPM เฉลี่ยที่ 6-7%  จะได้กำไรที่ 1,620-1,890 ล้านบาท ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับ GLOBAL ณ ปีที่แล้ววว

โอ้ววว ฝันไปรึเปล่าเนี่ย

 

ยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ….

 

มิสเตอร์หุ้นเด้ง

 

baggerstocks

คนธรรมดาๆ ที่ชอบคิดว่าตัวเองเป็น "ศิลปิน" ทั้งๆที่วาดรูป และเล่นดนตรีไม่เป็น ชอบการลงทุน และอ่านหนังสือเป็นกิจวัตร ความฝันก็คือ "มองหาเส้นขอบฟ้าที่อยู่ถัดไป..."

Comments are closed.